วิธีฟื้นฟูร่างกายของผู้ป่วยหลอดเลือดในสมองด้วยการกายภาพบำบัด

ความจำเป็นต่อการกายภาพบำบัดของผู้ป่วยหลอดเลือดสมองมีความสำคัญอย่างมาก เพราะนอกจากจะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถฟื้นฟูร่างกายได้แล้วนั้นยังสามารถทำให้ร่างกายของผู้ป่วยกลับมาเป็นปกติได้อีกด้วย อีกทั้งยังช่วยป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ที่จะตามมา ซึ่งหากเราไม่ทำกายภาพบำบัดและหากปล่อยทิ้งให้ผู้ป่วยอยู่ในสภาพเดิมนาน ๆ ก็จะเกิดผลเสียตามมาเช่น การฟื้นตัวยากขึ้น หรือบางรายอาจจะกลับมาใช้ชีวิตปกติไม่ได้อีกเลย วันนี้เรามีวิธีที่จะมาช่วยฟื้นฟูร่างกายของผู้ป่วยหลอดเลือดสมองด้วยการกายภาพบำบัด เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ จะมีวิธีไหนบ้างและสามารถทำด้วยตนเองง่าย ๆ ตามไปดูกันเลย

กายภาพบําบัดคืออะไร

กายภาพบำบัดคือ การช่วยฟื้นฟูร่างกายของผู้ป่วยที่มีสภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรงจากโรคต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดอาการเหล่านี้ โดยการใช้เทคนิคและเครื่องมือมากมายโดยไม่เน้นรับประทานยา อาจจะเป็นการออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมบำบัดที่เหมาะสมกับอาการนั้น ๆ โดยหลักแล้วผู้ที่จะมาทำกายภาพบำบัดได้ก็คือนักเวชศาสตร์ฟื้นฟูหรือนักกายภาพบำบัดเชี่ยวชาญ ที่เข้ามาช่วยเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติของร่างกายและกล้ามเนื้อ เพื่อเพิ่มความแข็งแรงและทำให้ผู้ป่วยกลับมาเป็นปกติได้ในเร็ววัน

การตรวจร่างกายทางกายภาพบําบัดในผู้ป่วย stroke

การตรวจร่างกายในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองสามารถทำได้โดยแบ่งออกเป็น 2 วิธี คือ การตรวจการเคลื่อนไหว และการตรวจร่างกาย

การตรวจการเคลื่อนไหว

1. การตรวจระดับของความรู้สึกตัว โดยใช้วิธีการแบมือหรือกำมือ หลับตาและลืมตา

2. การเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อใบหน้าโดยการกายภาพบำบัดกล้ามเนื้อว่ามีอาการของกล้ามเนื้ออ่อนแรงหรือไม่ โดยให้ผู้ป่วยยิ้มและสังเกตว่ามีรอยบุ๋มของแก้มทั้งสองข้างเท่ากันหรือไม่

3. การตรวจการเคลื่อนไหวของกำลังแขนและขาว่าสามารถยกขึ้นตามมุมหรือองศาที่กำหนดไว้ได้หรือไม่ หากขาข้างใดข้างหนึ่งยกไม่ขึ้นก็จะทำการกายภาพบำบัดขา

การตรวจร่างกาย

1. ตรวจเลือดเพื่อดูการแข็งตัวของเลือด ระดับน้ำตาลในเลือดและระดับไขมันในเลือด

2. ตรวจความผิดปกติของการเต้นของหัวใจ

3. เอกซเรย์สมองเพื่อดูเนื้อสมองและหลอดเลือดของสมองว่ามีความผิดปกติหรือไม่

4. อัลตราซาวนด์หลอดเลือดบริเวณคอเพื่อดูขนาดและการไหลเวียนของหลอดเลือดสมอง

ขั้นตอนกายภาพบำบัดมีอะไรบ้าง

1. กายภาพบําบัดกล้ามเนื้อ

บริหารการนอน ฝึกการลุกนั่งและยืน หรือเดินขึ้น-ลงบันได ฝึกการเคลื่อนไหวของแขนและขา โดยการทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การใส่เสื้อผ้าด้วยตนเองหรืออาบน้ำเอง เป็นต้น

2. การออกกำลังกาย

ด้วยท่าบริหารร่างกายง่าย ๆ โดยการชูแขนขึ้นเพดานแล้วเอาแขนลงแนบชิดลำตัว ส่วนขนที่มีกล้ามเนื้อขาอ่อนแรงควรทำกายภาพบําบัดขาอ่อนแรง โดยการนอนหงายและค่อย ๆ กางขาออกมาทีละข้างอย่างช้า ๆ ทำแบบนี้ติดต่อกัน 5-10 เซต หรือการบิดสะโพกไปมาเพื่อช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ

3. การฝึกการทรงตัว

ทำได้โดยการยืนตรงและมองไปข้างหน้า จากนั้นค่อย ๆ เดินอย่างช้า ๆ ให้เป็นเส้นตรง และฝึกการยกขาขณะเดินค้างไว้ 1-2 วินาที ทำแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ ให้ได้ประมาณ 20 ก้าว

4. การฝึกหายใจ

ค่อย ๆ สูดลมหายใจเข้าทางจมูกและปล่อยลมออกมาจากปากอย่างช้า ๆ ทำสลับกันไปเรื่อย ๆ เพื่อช่วยให้ระบบการหายใจดีขึ้น

5. การฝึกกล้ามเนื้อใบหน้า

ย่นหน้าผากและยกคิ้วทั้งสองข้างขึ้น หากใครที่ขยับไม่ได้ให้ใช้นิ้วมือช่วย หลังจากนั้นพยายามปล่อยมือและลองยกคิ้วเองใหม่อีกครั้งหนึ่ง หรือใช้วิธีค่อย ๆ ขมวดคิ้ว ย่นจมูกและหลับตา ให้ลองทำสลับกันไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะรู้สึกดีขึ้น

คู่มือกายภาพบําบัดผู้ป่วยอัมพาตครึ่งซีก

หากใครที่ป่วยเป็นโรคเส้นเลือดในสมองแล้วมีอาการอัมพาตครึ่งซีกสามารถทำกายภาพได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะไม่หายขาดตามวิธีการดังนี้

1. การจัดท่าในการนอน

เพื่อเป็นการป้องกันแผลกดทับและกระตุ้นกล้ามเนื้อให้สามารถฟื้นตัวได้เร็วขึ้น โดยการให้ผู้ป่วยนอนตะแคงทับข้างที่ดี โน้มศีรษะไปด้านหน้าเล็กน้อย แขนหรือขาที่มีอาการอ่อนแรงควรมีหมอนรองไว้ เพื่อป้องกันการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อ

2. การบริหารข้อต่าง ๆ เพื่อป้องกันข้อติด

บริหารหัวไหล่ และประสาทของการทำงานในส่วนต่าง ๆ ในร่างกาย เช่น กล้ามเนื้อแขน ข้อมือ ข้อศอก  โดยวิธีง่าย ๆเพียงแค่ใช้เชือกและดึงสลับกันไปมา
 

การทำกายภาพบำบัดนั้นทำได้ง่ายด้วยจนเองที่บ้านหากมีอาการที่ไม่รุนแรง แต่หากมีอาการป่วยรุนแรง ควรไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาและอาจทำกายภาพบำบัดเพื่อช่วยฟื้นฟูร่างกายให้กลับมาปกติ และหากใครที่ป่วยเป็นโรคหลอดเลือดสมองทาง Ishii stroke center สามารถช่วยดูแลได้ครบทุกขั้นตอนจนหายขาด หากสนใจติดต่อได้ที่ โทร 084-458-4591 หรืออีเมล shiistrokecenter@gmail.com หรือเข้าไปที่ Facebook ศูนย์ฟื้นฟูผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง อิชิ

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

กายภาพบำบัดใช้เวลานานเท่าไหร่ถึงจะหายดี

หากในส่วนของสมองที่ยังไม่ตายจะใช้เวลาฟื้นฟูได้ภายใน 3-6 เดือน เพื่อที่จะค่อย ๆ กลับมาทำงานเป็นปกติดี และหากในส่วนของสมองที่ตายไปแล้วนั้นจะไม่สามารถกลับมาได้เป็นปกติ จึงเป็นสิ่งที่ควรยอมรับหากเกิดภาวะสมองตาย

กายภาพบำบัดช่วยในเรื่องใดบ้าง

ช่วยฟื้นฟูร่างกายให้กลับมาแข็งแรงตามปกติ ลดโอกาสที่จะต้องผ่าตัด เสริมสร้างความสามารถในการใช้ร่างกายให้ดีขึ้น และยังช่วยในเรื่องของระบบหมุนเวียนเลือดให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ผู้ป่วยประเภทไหนถึงต้องกายภาพบำบัด

– ผู้ที่มีกล้ามเนื้ออ่อนแรง อัมพฤกษ์ อัมพาต
– ผู้ที่ปัญหาการทรงตัว และ การเดิน 
– ผู้ป่วยหลังผ่าตัดส่วนล่าง

กิจกรรมบําบัดกับกายภาพบําบัดต่างกันอย่างไร

กายภาพบำบัดจะเน้นการรักษาในหลากหลายด้าน โดยใช้ทั้งความคิด อารมณ์ หรือพฤติกรรมเพื่อเพิ่มความสามารถในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ ส่วนกิจกรรมบำบัดจะเน้นในเรื่องของการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อในแต่ละมัดหรือนำอุปกรณ์ทางการกายภาพบำบัดเข้ามาช่วย เช่นการฝึกการเดิน การนั่ง การยกขา เป็นต้น

Similar Posts