เกิดอะไรขึ้น! อาการตาพร่ามัวเห็นภาพซ้อน เกิดจากสาเหตุใดและเป็นอันตรายไหม?
อาการตาพร่ามัวเห็นภาพซ้อน หลายคนมักจะคิดว่าเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ และมักปล่อยผ่านไปเป็นเวลานานโดยไม่เข้าพบแพทย์ ในความเป็นจริงแล้วหากเกิดอาการตาพร่ามัวหรือมีภาพซ้อนเกิดขึ้นบ่อย ๆ อย่าปล่อยผ่านเด็ดจาก! เพราะอาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณเตือนบ่งบอกโรคได้หลายประการ ถ้าเอยากรู้ว่ามันคืออะไร และอันตรายแค่ไหน ตามไปดูพร้อมกันได้เลย
อาการตาพร่ามัวเห็นภาพซ้อนเกิดจากอะไร
การมองเห็นการมองเห็นภาพซ้อน หรือที่เรียกว่าภาวะ Diplopia แบ่งออกเป็น 2 กรณี ดังนี้
1. การมองเห็นภาพซ้อนเมื่อมองด้วยตาข้างเดียว (Monocular)
คนที่มีอาการตาพร่ามัวเห็นภาพซ้อน แต่เมื่อลองปิดตาข้างใดข้างหนึ่งแล้วภาพซ้อนนั้นหายไป สามารถตั้งข้อสังเกตได้ว่าอาการเหล่านี้อาจเกิดจากค่าสายตาเอียง กระจกตาเคลื่อน ภาวะดวงตาแห้ง จอประสาทตาเสื่อม เปลือกตาบวม หรือต้อกระจก
2. การมองเห็นภาพซ้อนเมื่อมองด้วยตาทั้งสองข้าง (Binocular)
คนที่มีอาการตาพร่ามัวหรือเห็นภาพซ้อนด้วยดวงตาทั้งสองข้าง มักจะเกิดจากกล้ามเนื้อตาทำงานผิดปกติ ซึ่งสามารถตั้งข้อสงสัยได้ว่าอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคทางระบบประสาทและสมอง กล้ามเนื้ออ่อนแรง เบาหวาน และโรคเกรฟส์ได้
นอกจากนั้นแล้วการมองเห็นภาพซ้อน สาเหตุอาจเกิดได้จากหลายปัจจัยโดยสาเหตุที่ก่อให้เกิดภาพซ้อนในระยะสั้นคือการดื่มแอลกอฮอล์ มักก่อให้เกิดอาการมึนเมา ภาพเบลอ ภาพซ้อน ตาพร่ามัวได้เช่นกัน ซึ่งหากเกิดจากฤทธิ์แอลกอฮอล์จะสามารถหายเองได้เมื่อแอลกอฮอล์ในร่างกายลดลง หรืออีกหนึ่งสาเหตุคือการจดจ้องที่ใดที่หนึ่งมากจนเกินไป เช่น จอคอมพิวเตอร์ หรือหนังสือเป็นเวลางาน การทำให้ตาเริ่มเหนื่อยล้า มองเห็นภาพเบลอได้
แต่หากมีอาการเห็นภาพซ้อน เวียนหัว หรือ ตาพร่ามัว เห็นภาพซ้อน ปวดหัว แม้ไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์อาจเกิดจากผลพวงของโรคอื่น ๆ เช่น โรคหลอดเลือดในสมอง เนื้องอกในสมอง หรือโรคอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับสมองได้เช่นเดียวกัน
อาการตาพร่ามัวเห็นภาพซ้อนเป็นอันตรายไหม
หากถามว่าอันตรายไหม ถ้าจะตอบว่าการเห็นภาพซ้อนไม่เป็นอันตรายก็คงจะไม่ได้ เพราะแม้ภาพซ้อนนั้น ๆ จะเกิดจากดวงตาอ่อนล้าจากการเพ่งเล็งหรือจดจ่อกับจอคอมหรือหนังสือก็ตาม ถ้าพูดไปอาจจะดูไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่หากปล่อยไว้เป็นเวลานานก่ออาจส่งผลต่อจอกระจกตา กล้ามเนื้อตา และอาจลุกลามจนเกิดโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ ตามมาได้เช่นกัน การมองเห็นภาพซ้อนเฉียบพลัน และเป็นอยู่บ่อยครั้งโดยไม่ทราบสาเหตุถือเป็นสัญญาณอันตรายที่ควรรีบเข้าพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยโรคอย่างละเอียดทันทีที่เริ่มมีอาการ เพื่อรักษาได้อย่างทันท่วงที
มองเห็นภาพซ้อนรักษาอย่างไร
มองเห็นภาพซ้อน การรักษาจะขึ้นอยู่กับผลตรวจทางการแพทย์ว่าเกิดจากสาเหตุใด หากเกิดจากดวงตาอ่อนล้า มองเห็นภาพซ้อนด้วยตาข้างเดียว อาจใช้แว่นตาสำหรับคนมองเห็นภาพซ้อน หรือการใช้น้ำตาเทียม เพื่อประคองอาการตาพร่ามัวเห็นภาพซ้อนในเบื้องต้นได้และรักษาต่อไป หรือหากเกิดจากกล้ามเนื้อตาทำงานผิดปกติก็อาจมีการผ่าตัดเพื่อรักษากล้ามเนื้อดวงตาให้กลับสู่ภาวะปกติ
หากใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับการมองเห็น ไม่ว่าจะเป็นอาการตาพร่ามัวเห็นภาพซ้อน ตาเบลอ มองไม่ค่อยชัด หรือมีอาการเวียนหัวร่วมด้วยควรรีบเข้าปรึกษาแพทย์ หากอาการไม่ได้รุนแรงมากนักอาจจะเกิดขึ้นเพราะมีค่าสายตาที่กำลังเปลี่ยนไป หรือหากใครที่มีอาการรุนแรงอาจทำให้เกิดภาวะโรคหลอดเลือดสมองได้ เนื่องจากอาการตาพร่ามัวเห็นภาพซ้อน เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่อาจเกิดโรคนี้ได้ ดังนั้น การเข้ารับการตรวจวินิจฉัยโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างละเอียดจะเป็นการดีที่สุด และหากใครที่อยากตรวจร่างกายให้ละเอียดเกี่ยวกับปัญหาที่มีอาการตาพร่ามัวเห็นภาพซ้อน สามารถเข้ารับการปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ที่ ศูนย์ฟื้นฟูผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง อิชิ โดยที่นี่มีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสมองและโรคหลอดเลือดสมองโดยเฉพาะ หากท่านใดที่มีความสนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 084 458 4591 Facebook หรือ Email : Ishiistrokecenter@gmail.com ได้เลยค่ะ
คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับอาการตาพร่ามัวเห็นภาพซ้อน
จอประสาทตาเสื่อมมีอาการอย่างไร
1. มองเห็นภาพบิดเบี้ยวไปจากเดิม
2. มีจุดดำกลางภาพที่มองเห็น
3. ภาพเบลอบ้างชัดบ้าง
4. เริ่มมองในที่แสงจ้าไม่ค่อยได้
ใครที่มีอาหารเหล่านี้อยู่อาจเสี่ยงต่อการเกิดโรคจอประสาทตาเสื่อม ควรรีบเข้าพบแพทย์เพื่อรักษาอาการโดยทันที
การมองเห็นภาพซ้อนเป็นยังไง
การมองเห็นภาพซ้อน คือภาวะที่ดวงตามองเห็นวัตถุหรือสิ่งของชิ้นเดียวซ้อนกันเป็น 2 ชิ้นหรือมากกว่า ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งภาพซ้อนแนวตั้งและแนวนอน บางรายอาจเกิดขึ้นกับดวงตา 1 ข้าง แต่บางรายก็อาจเกิดกับดวงตาทั้ง 2 ข้างได้เช่นเดียวกัน ทั้งนี้ผู้ป่วยจะต้องหมั่นสังเกตอาการตนเองอย่างใกล้ชิดหากมีความผิดปกติควรรีบพบแพทย์ทันที
เห็นภาพซ้อนจะหายไหม
การเห็นภาพซ้อนมีการรักษาหลากหลายวิธีไม่ว่าจะเป็นการสวมแว่นตา การบริหารดวงตา การฉีดโบท็อกแก้ไขกล้ามเนื้อตา ซึ่งหากได้รับการรักษาอย่างถูกวิธีจะค่อย ๆ หายลงได้ซึ่งอาจจะให้ระยะเวลา 1-2 เดือนขึ้น อยู่กับระดับความรุนแรงของอาการแต่ละบุคคล หากมีการผ่าตัดอาจต้องมีระยะเวลาพักฟื้น 1-3 เดือน แต่หากใครที่มีอาการตาพร่ามัว ภาพซ้อนและตรวจพบโรคอื่น ๆ ตามมา เช่น โรคเกี่ยวกับประสาทและสมอง ก็อาจจะต้องใช้ระยะเวลารักษาควบคู่กับโรคนั้น ๆ ต่อไป