ต้องรู้! หลอดเลือดหัวใจตีบ อาหารที่เหมาะสมยิ่งทานยิ่งดี
หลอดเลือดหัวใจตีบ อาหารที่เหมาะสมหลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่าจะต้องเลือกรับประทานอย่างไร บทความของเราวันนี้จึงเลือกที่จะนำเสนอความรู้เพื่อทำความเข้าใจให้กับทุกคนที่สงสัยตั้งแต่ หลอดเลือดหัวใจตีบ อาการเป็นอย่างไร และหลอดเลือดหัวใจตีบ รักษา และป้องกันอย่างไรได้บ้าง ตลอดจนหากเป็นโรคแล้วต้องศึกษาลึกไปถึงรายละเอียดที่ว่าหลอดเลือดหัวใจตีบ กินอะไรดีต่อสุขภาพ และมีอะไรบ้างที่ไม่ควรรับประทาน วันนี้เราจะพาทุกคนศึกษาและเรียนรู้ไปพร้อมกัน
หลอดเลือดหัวใจตีบ คืออะไร อาการเป็นอย่างไร
โรคหลอดเลือดหัวใจตีบสาเหตุหลัก
เกิดมาจากไขมันหรือหินปูนพอก เป็นสาเหตุทำให้เกิดการตีบแคบของผนังหลอดเลือดด้านใน ทำให้เลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อได้น้อยลง หรือไปเลี้ยงกล้ามเนื้อไม่ได้ ทั้งนี้การป่วยเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ อาหารถือเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคได้ เพราะอาหารบางชนิดทำให้เกิดภาวะไขมันในเลือดสูง โดยมีไขมันที่ไม่ดี 2 ชนิด ได้แก่ คอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์
โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ มักมีอาการใด
ต้องตอบว่าหลอดเลือดหัวใจตีบ ส่งผลทำให้หัวใจขาดเลือด ดังนั้นผู้ป่วยส่วนหนึ่งอาจจะเข้ารักษาตัวเมื่อตนเองมีอาการดัง ต่อไปนี้
- เจ็บ แน่นหน้าอกบริเวณด้านซ้าย
- อึดอัดไม่สบายตัวช่วงส่วนบนหน้าอกขึ้นไป หรือเจ็บหลัง
- ปวดร้าวที่ไหล่
- ปวดร้าวขึ้นมาที่กราม
- บางรายอาจรู้สึกจุกแน่นบริเวณลิ้นปี่
- บางรายอาจมีอาการเหงื่อแตก ใจสั่นหน้ามืด เป็นลม
- รู้สึกเหนื่อยเมื่อออกแรง โดยเหนื่อยง่ายขึ้น
- อาการร้ายแรงอาจหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน หรือหมดสติ
หากมีอาการเหล่านี้จึงไม่ควรวางใจ ควรที่จะพบแพทย์ทันที เนื่องจากอาการที่กล่าวมาส่วนหนึ่งเป็นอาการเริ่มต้นของโรคหลอดเลือดหัวใจตีบนั่นเอง
ใครที่มีความเสี่ยงเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ
1. ประเภทความเสี่ยงที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ได้แก่
- เพศชายจะมีความเสี่ยงเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบมากกว่าเพศหญิง ส่วนของเพศหญิงความเสี่ยงจะเพิ่มมากขึ้นหลังหมดประจำเดือน
- อายุมากขึ้นจะเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ชายที่มีอายุมากกว่า 45 ปี จะมีความเสี่ยง ส่วนของผู้หญิงอายุ 55 ปีขึ้นไปก็จะเสี่ยงมากขึ้นเช่นกัน
- พันธุกรรม
2. ประเภทความเสี่ยงที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ได้แก่
- การสูบบุหรี่
- การไม่ออกกำลังกาย
- น้ำหนักที่เพิ่มหรือเป็นโรคอ้วน
- การป่วยเป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง
หลอดเลือดหัวใจตีบ ป้องกันอย่างไรได้บ้าง
หากกล่าวถึงการป้องกันตัวไม่ให้ก้าวเข้ามาเป็นผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ อาหารและการรับประทานที่ควรคำนึงถึงคือ อาหารที่มีไขมันสูง เนื่องจากมันเป็นหนึ่งในปัจจัยที่จะเข้ามาเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ
ดังนั้นหลอดเลือดหัวใจตีบจึงป้องกันได้โดยการเลือกรับประทานอาหารที่มีดีต่อหัวใจอย่างผัก ผลไม้ และลดการรับประทานอาหารที่มีการปรุงแต่งมาก ๆ ตลอดจนการควบคุมความดันโลหิตสูง เบาหวาน โดยถ้ามีปัญหาให้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยวันละ 20 – 30 นาที เพราะพบว่าจะช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจตีบได้
หลอดเลือดหัวใจตีบ อาหารที่สามารถทานได้
สำหรับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ อาหารที่รับประทานได้ มีดังนี้
- เลือกรับประทานเนื้อที่ไม่ติดมัน เช่น เนื้อหมูสันใน หมูเนื้อแดง
- เนื้อปลา
- เนื้ออกไก่
- ไข่ขาว
- เต้าหู้
- เลือกรับประทานน้ำมันพืช เช่น น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันดอกทานตะวัน ซึ่งเหมาะกับอาหารประเภทผัด หรือเลือกน้ำมันรำข้าว ที่สามารถประกอบอาหารได้ทั้งเมนูผัดและเมนูทอด
อย่างไรก็ตามผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ อาหารควรจะต้องปรับเปลี่ยน โดยเริ่มจากเปลี่ยนพฤติกรรมมารับประทานอาหารในเมนูที่มีน้ำมันน้อยลง เช่น เมนูต้ม อบ นิ่ง ยำ ย่าง หรือเมนูผัดที่ใช้น้ำมันน้อยลง เพราะจะช่วยลดปริมาณไขมันในอาหารลงได้ และควรที่จะรับประทานอาหารให้หลากหลายครบทั้ง 5 หมู่ โดยเฉพาะผลไม้สด และผักต่าง ๆ เพราะโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ อาหารเสริมที่ทำให้ร่างกายได้รับวิตามิน กากใยที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย คือผักและผลไม้นั่นเอง
หลอดเลือดหัวใจตีบ อาหารที่ไม่ควรทาน
สำหรับอาหารที่เป็นปัจจัยเสี่ยงทำให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ได้แก่
- เนย
- ครีมเทียม
- กะทิ
- เบเกอรี่
- เนื้อสัตว์ติดมัน
- เนื้อสัตว์แปรรูปต่าง ๆ เช่น ไส้กรอก เบคอน
เหตุที่ไม่ควรรับประทานเนื่องจากอาหารเหล่านี้จะเข้าไปเพิ่มระดับไขมันในเลือดนั่นเอง
การเลือกใช้น้ำมันในการปรุงอาหาร
ควรหลีกเลี่ยงน้ำมันที่มีไขมันอิ่มตัวสูง ได้แก่ น้ำมันมะพร้าว น้ำมันปาล์ม และน้ำมันหมู เนื่องจากน้ำมันเหล่านี้จะเข้าไปเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลชนิดที่ไม่ดี หรือ LDL คอเลสเตอรอล
หลอดเลือดหัวใจตีบ รักษาอย่างไรได้บ้าง
ปัจจุบันมีวิธีรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจตีบสามารถแบ่งได้ 3 กลุ่มใหญ่ดังนี้
1. การรักษาด้วยยา
ต้องพบแพทย์เพื่อกินอย่างสม่ำเสมอ และป้องกันไม่ให้เส้นเลือดตีบไว
2. การรักษาด้วยการตรวจหัวใจ แล้วจึงไปทำบอลลูน
เพื่อขยายหลอดเลือดนั้น เพื่อให้เส้นเลือดไม่ตีบหรือตีบน้อยลง หรือใส่ขดลวดค้ำยันเพื่อป้องกันการเกิดซ้ำ
3. การรักษาด้วยการผ่าตัด
สำหรับการรักษาวิธีใด ขึ้นอยู่กับลักษณะของโรคว่าอยู่ในระดับไหน นอกจากนี้ยังมีการรักษาที่เรียกว่า “การฉีดสีสวนหลอดเลือดหัวใจ” อีกด้วย
ใครที่อ่านมาถึงส่วนนี้แล้วมีความกังวลว่าจะดูแลตัวเองหรือคนที่คุณรักอย่างไรหากพวกเขาเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ เรา “ISHII” ศูนย์ฟื้นฟูผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ที่มีมาตรฐานสากล พร้อมให้การดูแลอย่างใกล้ชิดด้วยทีมแพทย์ พยาบาลวิชาชีพ และเรายังมีเครื่องมือแพทย์ที่ทันสมัย เพื่อให้ผู้ป่วยได้ฟื้นฟูตัวเองให้กลับมาใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงปกติมากที่สุด
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
หลอดเลือดหัวใจตีบ ห้ามกินอะไร
ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ อาหารห้ามทานอาหารต่อไปนี้
– เนื้อสัตว์ติดมัน เช่น หมูติดมัน ขาหมู หมูกรอบ เบคอน รวมถึงหนังไก่ เพราะมันมีไขมันไม่ดีอย่างคอเลสเตอรอสสูง ส่งผลทำให้เส้นเลือดตีบลงและอาจเส้นเลือดหัวใจอุดตันอันตรายถึงชีวิตได้
– เนื้อสัตว์แปรรูป เช่น ไส้กรอก แฮม แหนม เนื่องจากมีไขมันอิ่มตัวสูง ทำให้ร่างกายมีไขมันเลว LDL สูง จนเส้นเลือดอุดตันได้
– ขนมเบเกอรี่ เช่น เค้ก คุกกี้ โดนัท บราวนี่ หรือขนมปังปรุงแต่ง เนื่องจากมีไขมันสูง อีกทั้งยังส่วนประกอบของเนยเทียม มาการีนที่มีไขมันทรานส์